ยังจำหน้าตาเว็บไซต์ของเว็บต่างๆเหล่านี้ได้ไหม

คุณเคยคิดถึงวันเก่าๆ เมื่อเว็บไซต์ดังๆ ในปัจจุบันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นหรือไม่?

หากคุณมีประสบการณ์กับอินเทอร์เน็ตในยุคแรกๆ คุณอาจจำได้ว่าหน้าตาและการออกแบบของเว็บไซต์เหล่านั้นมีความแตกต่างจากปัจจุบันอย่างไรบ้าง

ในบทความนี้ เราจะพาคุณย้อนกลับไปสำรวจหน้าตาเว็บไซต์ของบริษัทที่คุณรู้จักและใช้งานทุกวัน ว่าพวกเขามีลักษณะเป็นอย่างไรเมื่อเริ่มก่อตั้ง ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, หรือ Amazon ที่เริ่มต้นด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย และการทำงานที่ยังไม่ซับซ้อน

มาติดตามการเปลี่ยนแปลงของเว็บไซต์เหล่านี้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน แล้วดูว่าพวกเขามีวิวัฒนาการอย่างไรจนกลายเป็นเว็บไซต์ที่เราคุ้นเคยในทุกวันนี้

1. Google

Google ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 โดย Larry Page และ Sergey Brin ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยเริ่มต้นเป็นโปรเจกต์การวิจัยที่ชื่อว่า “BackRub” ซึ่งเน้นการวิเคราะห์และการจัดเรียงเว็บไซต์ตามความสัมพันธ์ของลิงก์ ในขณะที่เขากำลังเรียน PhD ในตอนนั้น

ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น Google ซึ่งมาจากคำว่า “googol” ที่หมายถึงตัวเลข 1 กำลัง 100 ตามคำแนะนำจากเพื่อนของพวกเขา ซึ่งแสดงถึงการใช้งานของเครื่องมือค้นหาที่สามารถจัดการกับจำนวนมากของข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

ในวันที่ 4 กันยายน 1998 บริษัท Google Inc. ถูกก่อตั้งขึ้น และเว็บไซต์ Google.com ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก เริ่มต้นเป็นเครื่องมือค้นหาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และก็ได้กลายมาเป็นเสิร์ชเอนจินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

2. Facebook

Facebook ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมกับเพื่อนร่วมห้องนอน Andrew McCollum, Eduardo Saverin, Chris Hughes, และ Dustin Moskovitz เริ่มต้นด้วยโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “Facemash” ที่ Zuckerberg พัฒนาขึ้นเพื่อให้นักศึกษาฮาร์วาร์ดสามารถเปรียบเทียบรูปภาพของคนในมหาวิทยาลัยและโหวตให้ด้วยกัน

ในวันที่ 26 กันยายน 2006 TheFacebook ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Facebook และเปิดให้บริการต่อสาธารณะทั่วไป เริ่มต้นเป็นการรับสมัครสมาชิกที่เกินกว่านักศึกษามหาวิทยาลัย หลังจากนั้นจึงได้ขยายออกสู่สาธารณะและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ตอนนี้มีผู้ใช้งาน Facebook มากกว่า 3,000 ล้านคน ในปี 2023

3. Myspace

ก่อตั้งปี 2003 ถือเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ฮอตที่สุดในขณะนั้น มีผู้ใช้งานสูงสุด 250 ล้านคนในขณะนั้น และเป็นเว็บไซต์ที่ร้อนแรงมาก สมัยนั้นใครๆก็มีบัญชี Myspace กัน

และปี 2005 Rupert Murdoch ซึ่งเป็นเจ้าพ่อมีเดียได้ซื้อ Myscpace เป็นจำนวนเงิน 580 ล้านเหรียญ

แต่หลังจากนั้นไม่นานผู้ใช้งานได้เริ่มหันไปใช้ โซเชียลมีเดียน้องใหม่อย่าง facebook มากขึ้น ส่งผลให้ความนิยมของ Myspace ลดลง และจำนวนผู้ใช้งานลดลงอย่างมาก ปี 2011 Rupert Murdoch ตัดสินใจขาย Myspace ทิ้งด้วยราคา 35 ล้านเหรียญ และมีข่าวว่าเขากล่าวว่าการซื้อ Myspace เป็นการตัดสินใจผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง

4. Yahoo

Yahoo ก่อตั้งโดย Jerry Yang และ David Filo สองนักศึกษาปริญญาโทด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในเดือนมกราคมปี 1994 โดยเริ่มต้นจากการเป็นเพียงเว็บไดเรกทอรี่ที่ช่วยจัดระเบียบเว็บไซต์ต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต

ซึ่งในช่วงเริ่มต้นนั้นมีชื่อว่า “Jerry and David’s Guide to the World Wide Web” และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Yahoo ในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน โดยคำว่า Yahoo ย่อมาจาก Yet Another Hierarchical Officious Oracle

ในช่วงปีแรกๆ Yahoo ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเปิดให้บริการแบบพาณิชย์ในปี 1995 โดยมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 1996 ซึ่งเป็นปีที่ Yahoo เปิดตัวในตลาดหลักทรัพย์ จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ต่อวันพุ่งสูงขึ้นถึงหลายแสนคน การเจริญเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมและการยอมรับที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคแรกๆ ของอินเทอร์เน็ต

ทุกวันนี้ Yahoo อยู่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมากจากยุคแรกเริ่ม แม้ว่าจะเคยเป็นหนึ่งในเว็บพอร์ทัลและบริการออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Yahoo ได้เผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งในเรื่องการแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ไม่สามารถแข่งขันกับบริการที่คล้ายกันจาก เช่น Google Microsoft และ Facebook และปัญหาภายในองค์กรเอง

5. Youtube

YouTube ก่อตั้งขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 โดยอดีตพนักงานของ PayPal สามคน ได้แก่ Chad Hurley, Steve Chen, และ Jawed Karim โดยเริ่มต้นจาก Jawed Karim ต้องการค้นหาวีดีโอตอนที่เจเน็ต แจ๊คสัน ทำหัวนมโผล่ในระหว่างการแสดง ในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล (Super Bowl) ปี 2004 แต่ไม่สามารถหาวีดีโอนั้นได้ จึงมีความคิดสร้างเว็บที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถอับโหลดวีดีโอของตัวเองและให้คนอื่นเข้ามาชมได้

พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจตรงนี้ คือการที่ไม่สามารถหาวิธีง่ายๆ ในการแบ่งปันวิดีโอออนไลน์ได้ หลังจากการพัฒนาและเปิดตัว YouTube ก็กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2006 Google ได้ซื้อ YouTube ในราคา 1.65 พันล้านดอลลาร์ในหุ้นของ Google การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ทำให้ YouTube ได้รับทรัพยากรและเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบัน YouTube กลายเป็นเว็บไซต์แบ่งปันวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผู้ใช้หลายพันล้านคนต่อเดือน และมีบทบาทสำคัญในวงการสื่อและความบันเทิงทั่วโลก

6. Wikipedia

Wikipedia ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 15 มกราคม 2001 โดย Jimmy Wales และ Larry Sanger พวกเขาตั้งใจสร้างสารานุกรมออนไลน์ที่สามารถแก้ไขได้โดยผู้ใช้ทุกคน Wikipedia เริ่มต้นจากแนวคิดในการใช้ซอฟต์แวร์แบบวิกิ (wiki) ที่ให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการเขียนและแก้ไขบทความได้ง่ายๆ

Jimmy Wales เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Bomis ซึ่งสนับสนุนทางการเงินในช่วงแรก ส่วน Larry Sanger ซึ่งมีปริญญาด้านปรัชญาและสนใจด้านการศึกษา เป็นผู้แนะนำการใช้ซอฟต์แวร์วิกิ และดูแลด้านบรรณาธิการในช่วงแรก

แนวคิดนี้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยผู้ใช้งานจากทั่วโลกเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างและแก้ไขเนื้อหา ทำให้ Wikipedia เติบโตเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุดในโลก ปัจจุบันมีบทความหลากหลายภาษากว่าหลายล้านบทความ และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากการมีส่วนร่วมของชุมชนผู้ใช้ทั่วโลก

7. Tumblr

Tumblr ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดย David Karp ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 20 ปี Karp มีแนวคิดในการสร้างแพลตฟอร์มที่รวมเอาคุณสมบัติของบล็อกและโซเชียลมีเดียเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถโพสต์เนื้อหาหลากหลายประเภท เช่น ข้อความ ภาพถ่าย วิดีโอ ลิงก์ และไฟล์เสียง ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

David Karp เริ่มพัฒนา Tumblr ในปี 2006 ขณะที่เขาทำงานเป็นนักพัฒนาเว็บในบริษัทซอฟต์แวร์ เขามองเห็นความต้องการของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตที่ต้องการแพลตฟอร์มที่ง่ายต่อการใช้งานสำหรับการแบ่งปันเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ และในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2007 Tumblr ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

Tumblr ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน เนื่องจากมีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ ในปี 2013 Yahoo! เข้าซื้อกิจการของ Tumblr ในราคา 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากนั้นความนิยมของ Tumblr ก็ลดลง และในปี 2017 Tumblr ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Verizon Communications หลังจากที่ Verizon เข้าซื้อ Yahoo!

ในปี 2019 Tumblr ถูกขายให้กับ Automattic บริษัทแม่ของ WordPress.com ด้วยราคาไม่เปิดเผย

8. Twitter

Twitter ก่อตั้งขึ้นในเดือนมีนาคม 2006 โดย Jack Dorsey, Noah Glass, Biz Stone และ Evan Williams โดยเริ่มต้นจากแนวคิดของ Jack Dorsey ที่ต้องการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการส่งข้อความสั้นๆ ที่เรียกว่า “status updates” หรือ “tweets” โดยในตอนแรกมีชื่อว่า “Twttr” และเปิดตัวสู่สาธารณะในเดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน

ต่อมา Twitter ก็ได้เติบโตเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สำคัญที่สุดในโลก มีบทบาทสำคัญในการรายงานข่าว การสื่อสารระหว่างบุคคลและกลุ่มคน การตลาด และการเคลื่อนไหวทางสังคมต่างๆ ปัจจุบัน Twitter ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกและมีอิทธิพลในวงการสื่อและการสื่อสาร

ในปี 2022 Elon Musk ได้เข้าซื้อกิจการ Twitter และมีการเปลี่ยนแปลงหลายประการภายใต้การบริหารของเขา รวมถึงเปลี่ยนชื่อจาก Twitter เป็น X ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและนโยบายในบริษัท อย่างไรก็ตาม Twitter ยังคงเป็นแพลตฟอร์มสำคัญสำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ข่าวสาร และการแสดงความเห็นในประเด็นต่างๆ ทั่วโลก

9. eBay

eBay ก่อตั้งขึ้นในเดือนกันยายน 1995 โดย Pierre Omidyar นักพัฒนาซอฟต์แวร์ชาวอเมริกัน ในตอนแรกเว็บไซต์นี้ถูกตั้งชื่อว่า AuctionWeb และ Omidyar สร้างขึ้นเพื่อลองใช้แนวคิดของตลาดออนไลน์ที่ผู้คนสามารถซื้อขายสินค้าได้โดยตรง

เรื่องราวเริ่มต้นของ eBay มักมีการเล่าว่า Omidyar ได้สร้างเว็บไซต์นี้ขึ้นเพื่อช่วยแฟนสาวของเขาขายเครื่องจ่ายลูกอม PEZ แม้ว่าภายหลัง Omidyar จะยืนยันว่าตั้งใจสร้างแพลตฟอร์มนี้เพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถขายสินค้าหลากหลายประเภทได้

เว็บไซต์ AuctionWeb เริ่มต้นอย่างเรียบง่าย โดยมีสินค้าหลากหลายประเภทถูกนำมาประมูล ตั้งแต่ของสะสมขนาดเล็กไปจนถึงสินค้าที่มีมูลค่าสูง ความสำเร็จของ AuctionWeb เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และในปี 1997 เว็บไซต์ได้เปลี่ยนชื่อเป็น eBay ซึ่งมาจากชื่อบริษัทของ Omidyar ชื่อ Echo Bay Technology Group

eBay เติบโตอย่างรวดเร็วและได้กลายเป็นหนึ่งในตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 1998 eBay เปิดตัวสู่สาธารณะในตลาดหุ้น และกลายเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีความสำเร็จมากที่สุดในยุคนั้น

ปัจจุบัน eBay ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการประมูลและการซื้อขายสินค้าออนไลน์ที่สำคัญ โดยมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลกและรายการสินค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ของสะสมหายากไปจนถึงสินค้าใหม่ๆ จากผู้ขายมืออาชีพ

10. LinkedIn

LinkedIn ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2003 โดย Reid Hoffman, Allen Blue, Konstantin Guericke, Eric Ly และ Jean-Luc Vaillant ซึ่งเป็นกลุ่มนักธุรกิจและนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากซิลิคอนแวลลีย์ รวมทั้ง Hoffman เป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง

LinkedIn เกิดขึ้นจากแนวคิดในการสร้างเครือข่ายองค์กรธุรกิจออนไลน์ที่ทำให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงกับเพื่อนร่วมงาน และคณะร่วมงาน แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ Hoffman ได้พบเห็นในการทำงานกับ PayPal และ SocialNet ที่เคยดำเนินการโดย Reid Hoffman ในอดีต

ในปี 2016 Microsoft ซื้อ LinkedIn ด้วยมูลค่ากว่า 26 พันล้านดอลลาร์ การซื้อนี้เป็นการเข้าร่วมกับยุคดิจิทัลและการดำเนินธุรกิจออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบของ Microsoft ที่มุ่งเน้นการขยายธุรกิจและเสริมสร้างอีโคโซสิสที่แข็งแกร่งในภาคธุรกิจ

11. Amazon

Amazon ก่อตั้งโดย เจฟ บีซอส (Jeff Bezos) ในปี 1995 ก่อนหน้านั้นเป็นผู้ทำงานในธุรกิจการลงทุนใน Wall Street เคยมีความพยายามที่จะเป็นผู้ผลิตข้อมูลสื่อการเรียนรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งในเวลานั้นเรียกว่า “อินเทอร์เน็ตหนังสือเรียน” (Internet Bookstore) แต่ตอนนั้นตลาดหนังสือเรียนออนไลน์ยังไม่เต็มไปด้วยความสำเร็จเพราะเหตุการณ์เทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตเพิ่งเริ่มต้นมา

หลังจากนั้นในปี 1995 เขาได้ตระเตรียมสร้างธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ โดยใช้ชื่อ “Amazon” ตามชื่อแมซอน แมกอน (Amazonia) และจากนั้น ขณะที่เขากำลังค้นหาสถานที่ในการก่อสร้างคลังสินค้าของตน ในปี 1997 เขาเปิดตัว Amazon.com ต่อสาธารณะ โดยเริ่มต้นด้วยการขายหนังสือออนไลน์

Amazon ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเริ่มต้นด้วยการขายหนังสือก่อน แต่ในภายหลังได้ขยายธุรกิจไปยังการขายสินค้าและบริการอื่นๆ อย่างเช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และการสมัครสมาชิก Amazon Prime ที่มีบริการส่งของด่วนแบบไม่จำกัดจำนวน ทำให้เป็นองค์กรเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกวันนี้

12. Instagram

Instagram ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดย Kevin Systrom และ Mike Krieger ซึ่งเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากแอพพลิเคชั่น Burbn ที่เคยพัฒนาขึ้นมาก่อนหน้านี้ ในตอนแรก Instagram เริ่มต้นด้วยการแชร์ภาพถ่ายในสถานที่ต่างๆ โดยให้ผู้ใช้นำเสนอภาพที่สวยงามและน่าสนใจ

แนวคิดของ Instagram มาจากความต้องการแชร์ภาพถ่ายในช่วงเวลาที่มือถือเริ่มมีกล้องถ่ายภาพที่มีคุณภาพสูง และความสะดวกสบายในการแชร์ไฟล์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เมื่อ Instagram ถูกเปิดตัวในแพลตฟอร์ม iOS ในเดือนตุลาคม 2010 ก่อนจะมีรุ่น Android ในปี 2012 ทำให้มันเริ่มรับความนิยมอย่างรวดเร็ว

ภายหลังในปี 2012 Facebook ได้ซื้อกิจการของ Instagram ในราคาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ Instagram ยังคงดำเนินธุรกิจแยกจาก Facebook และเริ่มพัฒนาฟีเจอร์และการปรับปรุงบริการใหม่ๆ โดยคงความเป็นไอคอนิคและสติ๊กเกอร์ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของแอพพลิเคชั่นนี้ไว้ตลอดเวลา