กระโดดสูงสไตล์ Fosbury flop กับบทเรียนที่บอกว่าอาจจะวิธีอื่นทีดีกว่าวิธีที่เราทำมาตลอด

เป็นเรื่องปรกติมีหลายๆอย่างที่เราทำกันอยู่ทุกวัน ปฏิบัติต่อกันกันจนเราไม่สงสัยเลยว่าทำไมต้องทำแบบนั้น และอาจจะเป็นไปได้ที่หลายๆอย่างที่ว่านั้นมีวิธีดำเนินการที่ดีกว่า..

วันนี้จะขออ้างอิงถึงการกระโดดสูง ปัจจุสถิติโลกกระโดดสูงที่สุดคือ 2.45 เมตร ความสูงนี้ถือว่าสูงมากและสูงกว่าความสูงของนักกีฬาด้วยซ้ำไป หลายๆคนคงไม่สงสัยว่าทำไม กระโดดสูงมันถึงกระโดดแบบเอาหลังลงเพราะเห็นกันจนชินและมันเป็นท่ามาตรฐานกันมาตั้งนานแล้ว

ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของกีฬาในร่ม กระโดดสูงเริ่มมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 และ วิธีการปฏิบัิติติดต่อกันมาการกระโดดส่งไม่ได้มีวิธีการกระโดดแบบนี้

ร้อยปีว่าจะกระโดดแบบเดียวกันคือคว่ำหน้าลง ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าสามารถมองเห็นท่อนเหล็กได้ชัดเจน และทำให้กระโดดได้สูงที่สุด ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาำืพที่สุด ทุกคนในโลกกระโดดแบบนั้นหมดเป็นร้อยๆปี ในการกระโดดสูงทุกๆสนาม ตั้งแต่กีฬาชิงแชมป์ระดับถิ่น จนไปถึงชิงแชมป์ระดับโลก โอลิมปิกตั้งแต่เริ่มมีมาทุกคนกระโดดแบบคว่ำหน้าทั้งหมด

มาถึงทศวรรษที่ 60’s มีนักศึกษาเพิ่งจบใหม่ๆ อายุ 21 ปี รูปร่างผอมแห้ง ขี้โรค ท่าทางไม่เอาไหน คนหนึ่งชื่อ Dick Fosbury เห็นนักกีฬีกระโดดสูงสมัยนั้นเวลากระโดดต้องคว่ำหน้าลง วิธีการกระโดดแบบนั้นถือว่าเป็นวิธีมาตรฐานที่นักกีฬาคนไหนๆก็ใช้กัน แทนที่จะปล่อยให้ผ่านเลยไปเขาสงสัยว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงกระโดดแบบนั้น เขาคิดว่าจะมีวิธีอื่นกว่านี้หรือเปล่าที่ืทำให้ระดับของการกระโดดสูงขึ้น

เขาเลยลองฝึกกระโดดแบบที่แตกต่างไปจากนักกีฬากระโดดสูงทั้งโลก คือหันหลังโดดและกะจังหวะยกขาให้ทันข้ามไม้ขวางให้ได้ เขาพบว่าวันเดียวที่เขาฝึกแบบนี้เขาสามารถพัฒนาให้ตัวเองกระโดดสูงได้แตกต่าง 6 นิ้ว ภายในวันเดียว ซึ่งมันก็จะทำลายสถิติโลกที่มี ณ ตอนนั้นอยู่แล้ว (ไม่เลวเลยสำหรับการทดลองนี้)

ในขณะที่นักกีฬาคนอื่นๆฝึกฝนอยู่หลายๆปี เขาจึงฝึกฝนสิ่งที่เขาค้นพบให้เป็นระบบของเขาเองไม่กี่เดือน กลับกลายเป็นระบบที่สามารถนำพาเขาเข้าสู่กีฬาโอลิมปิก ที่เม็กซีโก ปี 1968 ได้หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ตอนนี้เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เข่กำลังจะืทำจะเป็นการผลิกโฉมวิธีกาีีรกระโดดสูงโดยสิ้นเชิง

ครั้งแรกที่เขาปรากฏตัวเขาเป็นเพียงแต่นักกีฬาสมัครเล่นที่ไม่มีใครรู้จัก ทุกๆรอบที่เขาเข้าแข่งขัน ผู้ชมแทบทุกคน แม้กระทั่งโค๊ชทีมต่างๆ พากันหัวเราะในการท่าการกระโดดที่ตลกของเขา เพราะมันไม่เหมือนที่เคยทำมาร้อยๆปี ไม่มีใครทำมาก่อน และแปลกตลกในสายตาคนที่เห็น

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขาได้เปลี่ยนกีฬากระโดดสูงเข้าสู่ศตวรรษใหม่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เขากระโดดผ่านทุกรอบและพาตัวเองไปสู่รอบลึกๆ พร้อมกับแชมป์เก่า ในการเพิ่มความสูงทุกครั้งเขาสามารถกระโดดผ่านได้ทุกครั้ง จนคนดูเริ่มรู้สึกว่าเขาเป็นนักกีฬาอาชีพจริงๆ จนถึงจุดที่แชมป์เก่าเองก็ไม่สามารถกระโดดผ่่านไปได้ และในที่เขาสามา่รถทำลายสถิติและคว้าเหรียญทองโอลิมปิก แบบที่ทุกคนต่างงงและสงสัย

ไม่กี่ปีหลังจากนั้นนักกีฬากระโดดสูงหันมาใช้เทคนิคการโดดแบบเขา และทำลายสถิติขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นท่ามาตรฐานในการกระโดดสูงจนถึงปัจจุบัน จนท่านี้มีชื่อว่าว่า “Fosbury flop”

สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ วิธีการที่มีคนปฏิบัติต่อเนื่ิองกันมาเป็นเวลานานจนถือเป็นเรื่องปรกติ จนเราลืมถามว่าทำไมต้องทำวิธีนั้น บางครั้งอาจจะไม่ได้เป็นวิธีที่สุดก็ได้