ปัญหาใหญ่หลวงบางครั้งก็มีวิธีแก้ง่ายกว่าที่เราคิด

ชีวิตการทำงานทำไมมันมีแต่ปัญหา ปัญหา และก็ปัญหา เบื่อจริงๆเลยครับ อยากกลับไปอยู่บ้านเฮาบ่ต้องเจอะเจอปัญหาเยอะแยะ…

จำได้ว่าตอนสมัยเริ่มทำงานใหม่ๆ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร วันๆไม่ได้ทำอะไรนอกจากแก้ปัญหา วันหนึ่งได้มีโอกาสคุยกับหัวหน้า เลยถามหัวหน้าว่าทำไมมันมีเป็นหาเข้ามาเยอะจัง ไม่ได้ทำงานเลยเนี่ย หัวหน้าหัวเราะหึๆ พูดว่า “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันน้องเอ้ย…ว่าทำไมปัญหามันถึงได้เยอะอย่างนี้” แต่รู้อย่างหนึ่งว่าถ้ามันไม่มีปัญหาเราคงไม่มีงานทำ มีปัญหาเยอะๆดีแล้วเป็นสัญญาณว่าเรายังมีงานทำ เขาจ้างเรามาแก้ปัญหา หากไม่มีปัญหาเขาคงไม่จ้างเราหรอก นี่แหละคืองานของเรา

คิดไปคิดมาว่า..เออใช่ ที่ทุกคนทำงานแข่งขันกันทุกวันนี้งานจริงๆที่ว่าคือการแก้ปัญหา ธนาคารแก้ปัญหาลูกค้าที่ไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหน หรือไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาลงทุน ร้านอาหารแก้ปัญหาความหิว ดีเอชแลแก้ปัญหาคนที่ไม่รู้จะเอาของส่งให้อีกคนที่อยู่คนละมุมโลกยังไง บริษัทมือถือแก้ปัญหาที่เราไม่สามารถคุยกับคนที่อยู่คนละพื้นที่ได้ ฯลฯ เราหนีปัญหาไม่พ้นหรอกแก้ปัญหานี้ได้ปัญหาใหม่ก็เข้ามา

การแก้ปัญหาบางครั้งง่าย บางครั้งก็ยากมากๆ แต่บางครั้งที่คิดว่ายากๆ ก็อาจจะง่ายจนเราคิดไม่ถึงก็ได้ มีตัวอย่างอยู่สองตัวอย่าง

ตัวอย่างแรก ถ้าหากใครเคยได้ดูรายการ VIP เมื่อหลายปี ที่ตุ๊กญานีเป็นพิธีกรคงพอนึกออก เป็นเรื่องราวของคนไทยคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จทำร้านอาหารที่อเมริกาแล้วกลับมาเมืองไทย ขณะที่อยู่อเมริกาพอเริ่มตั้งตัวได้ก็เปิดร้านอาหารไทย แต่เมืองที่เขาอยู่มันใกล้ชายแดนเม็กซิโก จึงถูกโจรเม็กซิกันปล้นบ่อยๆ ปล้นเสร็จแล้วก็หนีข้ามฝั่งไปตำรวจก็ตามตัวลำบาก

หลังจากโดนปล้น 3-4 ครั้งติดกันชักแย่จะเจ้งเอา เพราะลูกค้ากลัวก็หายไปหมด และแต่ละครั้งที่โดนปล้นก็เสียเงินไปเยอะ ขึนปล่อยไปอย่างนี้เจ้งแน่ ครั้นจะย้ายร้านหนีไปที่อื่นก็ไม่ได้แล้วเพราะลงไปหมดตัวแล้ว วิธีหนึ่งคือจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยมาดูแลตลอดเวลา แต่ค่าใช้จ่ายก็มหาศาล ทำงานเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่า รปภ. คงไม่คุ้มแน่ๆ เขากำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติ

เขาแก้ปัญหาได้อย่างไร? หลังจากคิดอยู่นานในที่สุดเขาก็คิดออก เขาติดป้ายหน้าร้านบอกว่า “ลด 20% สำหรับลูกค้าตำรวจในเครื่องแบบ” หลังจากนั้นร้านเขาไม่เคยถูกปล้นอีกเลยแถมทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ ตลอดทั้งวันแต่ละชั่วโมงจะมีตำรวจในเครื่องแบบมานั่งกินชั่วโมงละอย่างน้อยคนหรือสองคน ไม่มีโจรหน้าไหนกล้าเข้ามาปล้น

ตัวอย่างที่สอง ที่ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีคอนเสิร์ต และการแสดงระดับท้องถิ่นเยอะมาก พอใกล้ถึงวันงานก็ต้องมีโปสเตอร์ติดประกาศ และปัญหาตามมาคือคนติดโปสเตอร์มักเอาไปติดพื้นที่สาธารณะเช่นผนังตึก และกำแพง ทำให้สกปรกเลอะเทอะ หน่วยงานท้องถิ่นต้องจ้างคนงานจำนวนมาก มาตามทำความสะอาดกันเป็นประจำ ซึ่งค่าใช้จ่ายออกไปแกะทีก็หลายพันปอนด์ เพราะต้องใช้คนจำนวนมาก เสียเวลาแกะทำความสะอาด และมีอุปกรณ์อีกมากมาย หลังจากแกะออกไม่นานก็มีใบใหม่ติดเรื่อยๆ ไม่จบสิ้นครั้นจะไปตามจับก็ไม่รู้จะจับกับใคร เจ้าของงานก็ไม่รับอยู่แล้ว

ที่เมืองหนึ่งในอังกฤษนั่นแหละหน่วยงานท้องถิ่นที่นั่นรับมือปัญหาที่ว่ามาเป็นเวลานาน ทั้งไล่แกะ ไล่จับ เอาคนไปดักรอ หรือพยายามเล่นงานเจ้าของงานยังไงก็ไม่เป็นผล หลังจากที่หมดเงินและเสียเวลาไปมหาศาล ก็มองไม่เห็นทางจะแก้ปัญหาได้ มันคงจะเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไม่ตกแน่ๆ

และแล้วก็มีคนคิดออก เขาบอกว่าง่ายมากๆเลย ลงทุนน้อยสุดๆด้วยไม่ต้องไปออกแรงอะไรให้มากขนาดนั้น เขาแก้ปัญหาดังนี้ ไปซื้อสีสเปรย์ถูกๆมาไม่กี่กระป๋อง เอากระดาษมาเจาะรูคำว่า “ยกเลิก” เจอโปสต์เตอร์ที่ติดในที่ต้องห้ามก็ไปฉีดสเปรย์ทับลงไปเลย

แป๊บเดียวก็จะมีข้อความว่ายกเลิกบนโปสเตอร์ชัดเจน ไม่เกิน 2 วันก็จะมีคนแกะโปสเตอร์นั้นออก ถ้ายังมาติดทับอีกก็ออกไปฉีดทับอีก ลองดูซิว่าสีสเปรย์ถูกๆกระป๋องหนึ่งที่ฉีดได้เป็นร้อยๆใบกับโปสเตอร์จ้างทำราคาแพงใครมันจะทนกว่ากัน ในที่ก็ไม่มีใครกล้าเอาโปสเตอร์มาติดอีกในที่ห้ามอีกต่อไป ใช้เวลาไม่นานสามารถแก้ปัญหาถาวรได้ทั้งเมือง โดยใช้เงินไปแค่ 600 ปอนด์เท่านั้นเอง

นี่เป็นตัวอย่างการแก้ปัญหาแบบง่ายๆที่คนข้ามไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *