เคยสงสัยกันไหมคะว่า วัตถุที่แพงที่สุดในโลกคืออะไร? หลายคนอาจคิดถึงเพชรเม็ดโต รถยนต์หรู หรือบ้านหลังใหญ่โต แต่ความจริงแล้ว วัตถุที่แพงที่สุดในโลกนั้นมีมากกว่านั้น และบางชิ้นก็อาจทำให้คุณประหลาดใจ!
ในโลกของเรามีวัตถุที่มีมูลค่ามหาศาลซ่อนอยู่มากมาย บางชิ้นเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีต บางชิ้นเป็นผลงานชิ้นเอกของมนุษย์ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความตั้งใจ และบางชิ้นก็เป็นเพียงวัตถุธรรมดาที่ถูกยกให้มีมูลค่าสูงขึ้นด้วยเหตุผลบางประการ
ถ้าคุณคิดว่าทอง หรือ เพชร หรือัญมณีล้ำค่าอื่นๆ คือวัตถุที่แพงที่สุดในโลกตอนนี้คุณก็คิดผิดแล้วหละ เพราะยังมีสิ่งอื่นที่แพงกว่านั้นอีกหลายอย่างที่คุณอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน พอพูดคำว่า “แพงที่สุดในโลก” มันก็คงไม่ใช่ของที่หาง่ายซักเท่าไหร่ บางอย่างเป็นวัตถุต้องห้ามไม่ว่าจะเป็นการครอบครองหรือซื้อขาย มาดูกันเลยมีอะไรบ้าง
บล็อกโพสต์นี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของวัตถุที่แพงที่สุดในโลก เราจะเจาะลึกถึงที่มาที่ไป คุณสมบัติพิเศษ และเรื่องราวเบื้องหลังของวัตถุเหล่านี้ เตรียมพบกับความลับของสมบัติล้ำค่าที่อาจทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง!
ติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ!
อันดับ 12 ทองคำ
ราคา $38.81 (1,240 บาท) ต่อกรัม
ทองคำถูกใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณในรูปแบบของเครื่องประดับ และตัวกลางในการแลกเปลี่ยน ในปัจจุบันยังใช้อุตสาหกรรมอิเลคทรอนิคส์ และยังเป็นสสารช่วยต้านทานการกัดกร่อน มันมีอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารและความงามเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับผู้ครอบครอง

อันดับ 11 Rhodium (โรเดียม)
โรเดียมเป็นธาตุที่มีหมายเลขอะตอม 45 และสัญลักษณ์คือ Rhโรเดียมเป็นโลหะทรานซิชันสีขาวเงินที่หายากอยู่ในกลุ่มของแพลทินัม และพบในแร่แพลทินัม ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาโลหะผสมแพลทินัม ปัจจุบันถูกใช้เป็นตัวเร่งปฏิริยาในการเผาไหม้เพื่อลดก๊าซคาร์บอนในเครื่องยนต์ จัดเป็นโลหะมีค่าที่มีราคาสูงที่สุดในโลก มีคุณสมบัติโดดเด่นคือ ทนต่อการกัดกร่อนสูงมาก ทนต่ออุณหภูมิสูง มีความแข็งและทนทานต่อการสึกหรอได้ดี และมีความสามารถในการสะท้อนแสงได้ดีเยี่ยม
นิยมนำไปชุบเคลือบเครื่องประดับที่ทำจากเงิน ทองคำขาว หรือโลหะมีค่าอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแวววาว ความทนทาน ป้องกันรอยขีดข่วน และป้องกันการหมอง ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในอุตสาหกรรมเคมี โดยเฉพาะในกระบวนการผลิตกรดไนตริก และตัวเร่งปฏิกิริยาในรถยนต์เพื่อลดมลพิษ ใช้ในส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางชนิด เช่น หน้าสัมผัสทางไฟฟ้า และตัวนำไฟฟ้า ใช้ในการเคลือบกระจกและเลนส์คุณภาพสูง เพื่อเพิ่มการสะท้อนแสงและลดการสูญเสียแสง

อันดับ 10 Platinum (ทองคำขาว)
ราคา $48 (1,530 บาท) ต่อกรัม
ทองคำขาวมีราคาแพงกว่าทองคำธรรมดา ทองคำขาวหรือ Platinum เป็นธาตุเคมีที่มีเลขอะตอม 78 และสัญลักษณ์คือ Pt เป็นธาตุโลหะทรานซิชัน มีสีเงินเทา มีน้ำหนักมาก สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ แพลทินัมทนต่อการกัดกร่อนมาก ในธรรมชาติพบอยู่กับสินแร่ของนิกเกิลและทองแดง เป็นโลหะที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้เครื่องประดับที่ทำจากแพลทินัมมีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอ และมีน้ำหนักมากกว่าทองคำ
ปัจจุบันแพลทินัมมีราคาสูงกว่าทองคำ 2-3 เท่า แพลทินัมสามารถใช้ทำเครื่องประดับ อุปกรณ์ในห้องทดลอง ตัวนำไฟฟ้า งานทันตกรรม และเครื่องกรองไอเสียในรถยนต์ ธาตุแพลทินัมเรียกได้อีกอย่างว่า ทองคำขาว นอกจากนั้นทองคำขาวยังถูกนำมาใช้ใส่ส่วนผสมของยาต้านโรคมะเร็ง
แพลทินัมเป็นธาตุที่หายากกว่าทองคำมาก โดยพบปริมาณน้อยกว่าในเปลือกโลก การสกัดแพลทินัมจากแร่มีความซับซ้อนและใช้เทคโนโลยีสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง แพลทินัมเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมหลายประเภท และเป็นที่นิยมในตลาดเครื่องประดับ ทำให้ราคาสูงขึ้น

อันดับ 9 นอแรด
เดี๋ยวนะ ใครจะเชื่อว่า “นอแรด” มีค่ามากกว่าทองคำ เพราะขายกันที่กิโลกรัมละเกือบ 2,000,000 บาท และหมายถึงชีวิตของแรด 1 ตัวอาจมีราคาถึง 8-10 ล้านบาท ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่าการบริโภคนอแรดให้ผลทางการแพทย์ แต่ความต้องการนอแรดในตลาดเอเชีย ซึ่งยังมีความเชื่ออยู่มากว่า การบริโภคนอแรดให้ผลทางการรักษาอาการของโรคบางประเภท ความต้องการนี้ส่งผลให้ราคาซื้อขายนอแรดสูง และยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดขบวนการล่าแรดข้ามชาติ

อันดับ 8 Methamphetamine หรือ ยาไอซ์
ราคา $120 (3,600 บาท) ต่อกรัม
Amphetamine เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ปี พ.ศ. 2518 เป็นสารประกอบของยาบ้านั่นเองส่วนเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) หรือยาไอซ์เป็นอนุพันธ์ซึ่งสกัดจาก แอมเฟตามีน ซึ่งมีความบริสุทธิ์มากกว่า และมีผลต่อระบบ ประสาทส่วนกลางได้รุนแรงกว่า
แต่ที่น่าตลกทีสุดแล้วหากเทียบกันกรัมต่อกรัมแล้ว ยาไอซ์ แพงกว่าทองคำ และทองคำขาวซะด้วยสิ คิดง่ายๆ ราคากลางทองคำตอนนี้ 1 บาท ประมาณ 2 หมื่นบาท ถ้า 1 กิโลก็ประมาณ 66 บาท หรือประมาณ 1 ล้าน 3 แสนบาท แต่ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3 ล้าน 6 โฮ่ๆๆๆ

อันดับ 7 Plutonium (พลูโตเนียม)
ราคา $4000 (120,000บาท) ต่อกรัม
พลูโตเนียมเป็นธาตุโลหะที่มีกัมมันตภาพรังสี มีสัญลักษณ์ Pu มีเลขอะตอม 94 พลูโตเนียมเป็นวัสดุฟิชไซล์ที่ผลิตขึ้นจากยูเรเนียมธรรมชาติ เป็นธาตุที่ใช้ในการทำอาวุธนิวเคลียร์ พลูโทเนียมมีพิษที่เกิดจากการแผ่รังสีที่จะสะสมที่ไขกระดูก นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ทำให้การจัดการพลูโทเนียมเป็นเรื่องที่อันตรายมาก บางองค์กรนำเอาพลูโตเนียมมาเป็นธาตุในการสร้างพลังงานปรมณู

อันดับ 6 Taaffeite
ราคา $2,500 ถึง $20,000 (80,000 – 600,000บาท) ต่อกระรัต หรือกรัมละ 3 ล้านบาท
Taaffeite (หรือ Taaffeite stone) คือแร่ชนิดหนึ่งที่มีความหายากมาก เป็นอัญมณีที่มีสีสันหลากหลายตั้งแต่ไม่มีสี ม่วง ชมพู ไปจนถึงแดง Taaffeite มีความแข็งอยู่ในระดับสูง ทำให้เหมาะสำหรับนำมาทำเป็นเครื่องประดับ Taaffeite ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1945 โดย Richard Taaffe นักอัญมณีชาวไอริช ซึ่งเป็นที่มาของชื่อแร่ชนิดนี้
อย่างที่กล่าวไปแล้ว Taaffeite เป็นชื่อที่มาจากนักอัญมณีวิทยาชาวออสเตรเลีย “Richard Taaffe” ซึ่งเป็นผู้ค้นพบการเจียระไนและขัดตกแต่งอัญมณี ค้นพบชนิดนี้เป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1945 ช่วงสีที่พบของอัญมณีชนิดนี้ อยู่ในช่วงเกือบใสไม่มีสี ไปจนถึงสีลาเวนเดอร์ สีม่วงอมน้ำเงินซีด และสีม่วงอมน้ำเงิน
Taaffeite มีแหล่งกำเนิดที่ประเทศศรีลังกา และแทนซาเนีย แต่อาจจะพบจากแหล่งอื่นๆได้เช่นกัน มีการประมาณกันว่า Taaffeite หายากกว่าเพชรประมาณ 1 ล้านเท่า และถือเป็นหนึ่งในอัญมณีที่หายากและมีมูลค่าสูงที่สุดในโลกประเภทหนึ่ง แต่เนื่องจากมนุษย์ให้ราคาของเพชรมากกว่า Taaffeite จึงมีราคาถูกกว่าเพชรนิดนึง

อันดับ 5 Tritium (ทริเทียม)
ทริเทียม (Tritium) คือไอโซโทปหนึ่งของไฮโดรเจน มีสัญลักษณ์เป็น ³H หรือ T นิวเคลียสของทริเทียมประกอบด้วยโปรตอน 1 ตัวและนิวตรอน 2 ตัว ทำให้มีมวลมากกว่าไฮโดรเจนทั่วไป (โปรเทียม) ถึง 3 เท่า
ทริเทียมมีคุณสมบัติเป็นกัมมันตรังสี มีครึ่งชีวิตประมาณ 12.32 ปี ปลดปล่อยรังสีบีตา (อิเล็กตรอนพลังงานต่ำ) ออกมาขณะสลายตัว
ทริเทียมพบได้ในธรรมชาติเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างรังสีคอสมิกกับชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ยังสามารถผลิตได้ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ทริเทียมเป็นสารที่สามารถเรืองแสงด้วยตัวเองเป็นสิบๆปีโดยไมต้องดูดซับแสงใดๆ ถูกใช้เป็นสารเคลือบป้ายเรืองแสงต่างๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะมีมากมายเอามาทำป้ายหรือทำอะไรนะ ที่เห็นเป็นป้ายเรืองแสงมันคือ Tritium illumination ซึ่งมีสถานะเป็นก๊าซ ของ tritium อีกที
แต่อย่าจำสับสนกับ Titanium (ไทเทเนียม) นะครับ

อันดับ 4 Diamond (เพชร)
คงไม่มีข้อสงสัยใดๆเกี่ยวกับเพชรอีกแล้วเรื่องราคาและความสวยงาม แม้ไม่ได้เป็นอัญมณีที่หายากที่สุดในโลกแต่เพชรเป็นอัญมณีที่มีราคาแพงที่สุดในโลก นอกจากนั้นแล้วเพชรยังเป็นสสารที่แข็งที่สุดในโลกซึ่งถูกนำมาใช้ในอุตสหกรรมตัดและเจียรวัตถุ

อันดับ 3 Painite
ราคา $50,000 – $600,000 (1,500,000 – 18,000,000 บาท) ต่อกระรัต
The Guinness Book รายงานว่า Painite เป็นอัญมณีที่หายากที่สุดในโลก โดยผู้ค้นพบคือ Arthur Pain นักแร่วิทยาชาวประเทศอังกฤษ อัญมณีนี้ถูกค้นพบเมื่อปี 1950 และพบในประเทศพม่าและประเทศอินโดนีเซียเท่านั้น มีสีตั้งแต่ชมพูจนถึงน้ำตาล มักมีสีน้ำตาลของเหล็กปนในตัวมัน
Painite มีความแข็งอยู่ในระดับสูง (8 ในระดับ Mohs scale) ทำให้เหมาะสำหรับนำมาทำเป็นเครื่องประดับ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความหายากมาก การพบเจอ Painite ในขนาดที่เหมาะสมสำหรับการเจียระไนเป็นอัญมณีจึงเป็นเรื่องยากมาก
ตั้งแต่การค้นพบมา 60 กว่าปีที่แล้ว เพิ่งสามารถเจอชิ้นที่สามารถนำมาเจียระนัยได้เพียงแค่ 2 ชิ้น


อันดับ 2 Californium-252
ราคา $27 ล้าน (800 ล้านบาท) ต่อกรัม
แคลิฟอร์เนียมค้นพบโดย S.G. Thompson, A. Ghiorso, K. Street และ G.T. Seaborg ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1950 จากผลิตผลที่เกิดจากการระดมยิง 242Cm ปริมาณเล็กน้อย (ไม่ถึงไมโครกรัม) ด้วยฮีเลียมอิออน โดยใช้ไซโคลตรอนขนาด 60 นิ้ว ที่มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย เมือง Berkeley นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้สามารถแยกธาตุใหม่นี้ออกมาได้โดยวิธีการแลกเปลี่ยนอิออน แคลิฟอร์เนียมถูกใช้ในการวิเคราะห์หาปริมาณน้ำและชั้นของ น้ำมัน) ใช้เป็นแหล่งนิวตรอนในการสำรวจโลหะ เช่น ทองคำหรือเงิน เป็นต้น จึงทำให้มีราคาสูงมาก ตั้งแต่ทศวรรษที่ 50 จนถึงปัจจุบันกว่า 50 ปี นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเคราะห์ได้รวมทั้งสิ้น 8 กรัมเท่านั้น

อันดับ 1 Antimatter หรือ ปฏิสสาร
ราคา $62.5 ล้านล้าน (1,800 ล้านล้านบาท) ต่อกรัม
แล้วก็มาถึงสสารที่แพงที่สุดในโลก แต่มันก็เป็นเพียงการประมาณจากทฤษฏีเท่านั้นเอง ซึ่งก็คือ Antimatter หรือ ปฏิสาร
ปฏิสสาร หรือ Anti-matter เป็นคู่ตรงข้ามของสสาร ซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นในการระเบิดครั้งใหญ่ หรือบิ๊กแบง และเคยมีปริมาณมากเท่ากับสสาร แต่ปัจจุบัน กลับแทบไม่เหลือปฏิสสารในจักรวาลอยู่เลย
ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถจับต้อง ปฎิสสาร ได้จริงๆจังๆ มันเป็นเพียงแนวคิดทางฟิสิกส์และอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ ที่ระบุว่ามีสมบัติตรงข้ามกับอนุภาคที่ประกอบกันเป็นสสารทั่วไปที่เราคุ้นเคย ตัวอย่างเช่น อิเล็กตรอน (electron) ซึ่งมีประจุลบ จะมีปฏิยานุภาคที่เรียกว่า โพซิตรอน (positron) ซึ่งมีประจุบวก ในขณะที่โปรตอน (proton) ซึ่งมีประจุบวก จะมีปฏิยานุภาคที่เรียกว่า แอนติโปรตอน (antiproton) ซึ่งมีประจุลบ
ปฏิสสารถูกทำนายการมีอยู่ครั้งแรกโดย พอล ดิแรก (Paul Dirac) ในปี ค.ศ. 1928 และถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1932 การผลิตปฏิสสารทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก โดยส่วนใหญ่ผลิตขึ้นในเครื่องเร่งอนุภาค ปฏิสสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการศึกษาฟิสิกส์อนุภาค ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจธรรมชาติของสสารและเอกภพได้ดียิ่งขึ้น
สาเหตุที่แพงเพราะว่านักวิทยาศาสตร์ได้คาดคะเนเอาไว้ว่าหากจะผลิตปฏิสาร 1 กร้มต้องใช้เงินประมาณ 62.5 ล้านล้านเหรียญ หรือ 1,800 ล้านล้านบาท ดังนั้นถ้าใช้เงินมากขนาดนี้ในการสร้างมันขึ้นมาก ราคามันก็คงไม่ต่ำกว่านี้แหละ (ถ้ามีคนจะซื้อ 555)
