Danbo

13 เพลงไทยที่บรรเทาอาการอกหักที่ดีที่สุด สำหรับคนอายุ 35 ปีขึ้นไป

หากย้อนกลับไปสมัยวัยรุ่นเป็นต้นมา หลายคนคงเคยผ่านการอกหักกันมาบ้างแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำในช่วงที่อกหัก คือฟังเพลง ผู้ที่มีประสบการณ์มาแล้วมักจะแนะนำว่าอย่าฟังเพลงเหงาๆเศร้าๆ มันจะทำให้คิดถึงความหลังมากขึ้นและทุกข์กับมันมากขึ้น ยิ่งเป็นเพลงที่ซ้ำเต็มความชอกช้ำก็อย่าไปฟังมัน

แต่เพลงก็ใช่ว่าจะซ้ำเติมความทุกข์เศร้าให้เราอย่างเดียว มีหลายๆเพลงที่ช่วยให้บรรเทาอกการอกหักได้ ที่ว่ากันว่าเพลงที่จะบรรเทาอาการอกหักได้นั้น ว่ากันว่ามันควรจะมีคุณลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายๆอย่างดังนี้ ฟังแล้วเหมือนมีคนมาปลอบ รู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นคนเดียวในโลกที่มีความทุกข์อยู่ขณะนี้

ฟังแล้วอาจจะเศร้าแต่ก็ทำให้รู้สึกชีวิตต้องดำเนินไป ฟังแล้วรู้สึกว่าเราสามารถบอกลาเส้นทางเก่าได้รู้สึกมีเส้นทางใหม่ๆอยู่เสมอ ฟังแล้วอาจจะทำให้หวนคิดถึงความหลังบ้างแต่ให้ความรู้สึกปิติยินดีกับคนที่ทำให้เราอกหักมากกว่าความเสียดายหรือโหยหาอาทร และเป็นเพลงที่ไม่จำเป็นต้องฟังแล้วอินตอนที่กำลังเศร้าจากการอกหักเท่านั้น ฟังเพลงพวกนี้แล้วเชื่อว่าจะทำให้เรากลับเข้าสู่ชีวิตปรกติได้เร็วขึ้น

สำหรับเพลงไทยนั้น หากนำคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว จะได้เพลงที่ว่ากันว่าบรรเทาอาการอกหักได้ดีที่สุด เรียงลำดับตามนี้เลยอย่างไรก็ตามที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นเพลงไหน แนวอะไร มีความหมายยังไงหากฟังแล้วเรารู้สึกดีและชอบเพลงนั้นแหละเป็นเพลงที่ดีที่สุดสำหรับเราตอนนั้น

1. ทะเลใจ – คาราบาว

เพลง “ทะเลใจ” ของวงคาราบาว เป็นหนึ่งในเพลงที่โดดเด่นและได้รับความนิยมมาก เนื้อร้องและทำนองของเพลงนี้สื่อถึงความรู้สึกลึกซึ้งและซับซ้อนของความรักอย่างแยบยล

เนื้อเพลงเปรียบเปรยความรู้สึกของความรักเหมือนกับทะเลลึกที่มีคลื่นซัดเข้าออก ทะเลใจเปรียบเสมือนความรู้สึกที่แปรปรวนได้ง่าย มีทั้งช่วงเวลาที่สงบสุขและช่วงเวลาที่ปั่นป่วน เหมือนกับทะเลที่มีทั้งคลื่นลมสงบและคลื่นลมแรง บางครั้งสงบนิ่ง บางครั้งก็วุ่นวาย เต็มไปด้วยความปั่นป่วนและความสับสน แต่ก็ยังคงมีความหวังว่าคลื่นแห่งความรักนั้นจะพาพาไปสู่จุดหมายปลายทางอันงดงาม เนื้อหาสะท้อนภาพชีวิตคู่ที่ต้องเผชิญกับปัญหาอุปสรรค แต่ยังคงผูกพันและรักกันต่อไป

ทำนองของเพลงมีจังหวะคลาสสิกแบบบ้านนอกที่ให้ความรู้สึกละมุนละไม สบายๆ แต่ก็ผสมผสานกับดนตรีร็อกได้อย่างลงตัว จังหวะกลองช้าๆ เสียงกีตาร์ที่แนบเนียน เพิ่มบรรยากาศอันโรแมนติกให้กับเพลง เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของวงคาราบาวสื่ออารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ได้อย่างแทรกซึ้งประสานกับเนื้อร้อง ทำให้ผู้ฟังสามารถจินตนาการตามไปกับบรรยากาศของเพลงได้อย่างไม่เศร้าใจมากนัก จึงเหมาะสำหรับจรรโลงใจและช่วยบรรเทาอาการอกหกได้พอสมควร

2. ไม่รักแต่คิดถึง – เฉลียง

เพลง “ไม่รักแต่คิดถึง” ของเฉลียง เป็นเพลงที่สื่อถึงความรู้สึกที่ซับซ้อนของการคิดถึงใครสักคน แม้ว่าจะไม่ได้มีความรู้สึกในเชิงรักใคร่แบบคนรักอีกต่อไปแล้วก็ตาม เพลงนี้ไม่ได้พูดถึงความรักที่หวานชื่นหรือความเจ็บปวดจากการอกหักโดยตรง แต่กลับเน้นไปที่ความรู้สึกคิดถึง ความทรงจำดีๆ ที่ยังคงอยู่ และการยอมรับว่าความสัมพันธ์นั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว

  1. ความคิดถึงที่ยังคงอยู่: แม้จะไม่ได้รักกันแล้ว แต่ความคิดถึงและความห่วงใยยังคงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือคนรักเก่า ความคิดถึงนี้เป็นความรู้สึกที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องการอะไรตอบแทน เพียงแค่คิดถึงและห่วงใยอยู่เสมอ
  2. การยอมรับความจริง: เพลงนี้สื่อถึงการยอมรับความจริงที่ว่า เราไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ แต่ยังคงมีความรู้สึกดีๆ อยู่ในใจ การยอมรับความจริงนี้เป็นก้าวสำคัญในการก้าวผ่านความเจ็บปวดและเริ่มต้นใหม่
  3. ความหวังดี: การคิดถึงและห่วงใยโดยไม่ต้องการอะไรตอบแทน เป็นการแสดงความหวังดีต่อคนที่เราคิดถึง เป็นการส่งความปรารถนาดีให้เขามีความสุขในทุกๆ ที่ที่เขาอยู่

เพลงนี้ช่วยบรรเทาความอกหักได้อย่างไร:

  • การยอมรับความรู้สึก: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังยอมรับความรู้สึกคิดถึงและความทรงจำที่มีต่อคนรักเก่า โดยไม่ต้องรู้สึกผิดหรืออาย
  • ความเข้าใจ: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจว่าความรู้สึกคิดถึงเป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าจะไม่ได้รักในแบบคนรักแล้วก็ตาม
  • การปล่อยวาง: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังปล่อยวางความรู้สึกเจ็บปวดและก้าวต่อไปข้างหน้า โดยยังคงเก็บความทรงจำดีๆ ไว้ในใจ

เพลง “ไม่รักแต่คิดถึง” เป็นเพลงที่ให้กำลังใจและความเข้าใจแก่ผู้ที่กำลังเผชิญกับความรู้สึกคิดถึงคนรักเก่า โดยสื่อสารผ่านเนื้อหาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวและสามารถก้าวผ่านความรู้สึกนี้ไปได้

3. ไม่ต้องเสียใจ – เสือ

เพลง “ไม่ต้องเสียใจ” ของ เสือ ธนพล เป็นเพลงที่ให้กำลังใจและปลอบโยนคนที่กำลังเผชิญกับความเศร้าจากการสูญเสียความรักหรือการแยกทางกับคนรัก เนื้อหาของเพลงมีความหมายที่สื่อถึงการปล่อยวางและการก้าวผ่านความเจ็บปวดไปสู่อนาคตที่ดีกว่า

เนื้อเพลงเน้นให้ผู้ฟังยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นว่าเราทั้งสองคนไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป การยอมรับความจริงเป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มต้นใหม่และก้าวผ่านความเศร้า

นอกจากนั้นยังมีเนื้อหาที่ปลอบโยนและให้กำลังใจว่าไม่ต้องเสียใจ การเสียใจเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เราควรจะปล่อยวางและไม่ให้ความเจ็บปวดมากำหนดชีวิตของเรา ยังช่วยกระตุ้นให้ผู้ฟังมองไปข้างหน้าและเชื่อมั่นว่าอนาคตยังมีสิ่งดีๆ รออยู่ การที่เราได้เรียนรู้จากความเจ็บปวดในอดีตจะทำให้เราเข้มแข็งและพร้อมสำหรับสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่า

“ไม่ต้องเสียใจ” สามารถช่วยบรรเทาความอกหักได้ มีดังนี้:

  1. การให้กำลังใจ: เพลงนี้มีเนื้อหาที่เต็มไปด้วยกำลังใจ ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าตนเองไม่ได้อยู่คนเดียวและยังมีความหวังในการเริ่มต้นใหม่
  2. การยอมรับและปล่อยวาง: การฟังเพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังยอมรับความจริงและปล่อยวางความเจ็บปวด ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการฟื้นฟูจิตใจ
  3. การมองไปข้างหน้า: เพลงนี้กระตุ้นให้ผู้ฟังมองไปข้างหน้าและไม่จมอยู่กับความเศร้าในอดีต การมองไปข้างหน้าช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการสร้างชีวิตใหม่ที่มีความสุขมากขึ้น
  4. การเชื่อมั่นในตนเอง: เนื้อเพลงช่วยให้ผู้ฟังมีความเชื่อมั่นในตนเองว่าเราสามารถก้าวผ่านความเจ็บปวดได้ และเรามีความสามารถที่จะมีความสุขอีกครั้ง

4. ดอกไผ่บาน – บาวปาน


เพลง “ดอกไผ่บาน” ของ บาว-ปาน เป็นเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความรัก ความหวัง และการรอคอยที่ไม่สิ้นสุด เพลงนี้ใช้ภาพของดอกไผ่บานเป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความรักที่เบ่งบานในใจคนๆ หนึ่ง แม้ว่าอาจจะไม่มีโอกาสสมหวังหรือได้อยู่ด้วยกัน

  • การรอคอยและความหวัง: ดอกไผ่บานสื่อถึงความหวังและการรอคอยที่ยังคงมีอยู่ แม้ว่าอาจจะไม่มีความแน่นอนหรือความหวังที่จะแน่ชัดว่าจะสมหวัง การรอคอยในเพลงนี้สื่อถึงความรักที่อยู่ในใจและยังไม่ลืมเลือน
  • ความรักที่ไม่มีวันลืม: เพลงนี้สื่อถึงความรักที่แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็ยังคงอยู่ในใจและไม่มีวันลืมเลือน ความรักนี้เป็นความรักที่ลึกซึ้งและยั่งยืน
  • การยอมรับความจริง: เพลงยังสื่อถึงการยอมรับความจริงว่าบางครั้งความรักอาจจะไม่ได้สมหวัง แต่การยอมรับและการคงความรู้สึกดีๆ ไว้ในใจก็เป็นสิ่งที่สวยงามและมีคุณค่า

เป็นเพลงที่มีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับความรักและการรอคอย การฟังเพลงนี้ช่วยบรรเทาความอกหักได้โดยการให้ความหวัง ระบายความรู้สึก ช่วยให้เข้าใจและยอมรับความจริง รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังสามารถก้าวผ่านความเจ็บปวดและมีความสุขได้อีกครั้ง

5. นักเดินทาง – ศุ บุญเลี้ยง

เพลง “นักเดินทาง” ของ ศุ บุญเลี้ยง เป็นเพลงที่สื่อถึงการเดินทางทั้งในทางกายภาพและในทางจิตใจ การเดินทางในเพลงนี้เปรียบเสมือนกับการเผชิญหน้าและก้าวผ่านความท้าทายต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง หรือการเดินทางผ่านความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน

วิธีที่เพลง “นักเดินทาง” ช่วยบรรเทาความอกหัก

  1. ให้กำลังใจและแรงบันดาลใจ: เพลงนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟังมีความเข้มแข็งและไม่ยอมแพ้ต่อความเจ็บปวด ความหมายของเพลงช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกว่าความเจ็บปวดเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในชีวิต และเราสามารถผ่านพ้นมันได้
  2. การเปลี่ยนแปลงมุมมอง: เพลงช่วยให้ผู้ฟังมองความเจ็บปวดและความทุกข์ในมุมที่เป็นการเรียนรู้และการเติบโต การที่เราเผชิญกับความเจ็บปวดทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้นและเติบโตจากประสบการณ์นั้น
  3. การระบายความรู้สึก: การฟังเพลงช่วยให้ผู้ฟังสามารถระบายความรู้สึกเจ็บปวดและความทุกข์ในใจ การระบายความรู้สึกผ่านเพลงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เรารู้สึกเบาลงและสามารถก้าวต่อไปได้
  4. การให้ความหวัง: เพลงนี้สื่อถึงความหวังและการมองไปข้างหน้า แม้ว่าเราจะเผชิญกับความเจ็บปวดและความท้าทายในชีวิต การที่เรายังเดินทางต่อไปหมายความว่าเรายังมีความหวังและมีอนาคตที่ดีรออยู่

6. ลึกสุดใจ – โจ ก้อง

เพลง “ลึกสุดใจ” ของโจ-ก้อง สื่อถึงความรู้สึกคิดถึงและอาลัยอาวรณ์ถึงคนรักเก่าที่ยังคงฝังลึกอยู่ในใจ แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม เพลงนี้ไม่ได้เน้นที่ความเจ็บปวดจากการอกหัก แต่กลับโฟกัสไปที่ความทรงจำดีๆ ที่ยังคงมีอยู่ และการยอมรับว่าความสัมพันธ์นั้นได้จบลงแล้ว

เพลงนี้สะท้อนถึงความทรงจำเกี่ยวกับคนรักเก่าที่ยังคงชัดเจนอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นภาพความสุขในวันเก่า หรือความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กัน

แม้ว่าความสัมพันธ์จะจบลง แต่ความรู้สึกคิดถึงและอาลัยอาวรณ์ยังคงอยู่ เพลงนี้แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกโหยหาและความปรารถนาที่จะได้พบเจออีกครั้ง

แม้จะยังคงคิดถึง แต่เพลงนี้ก็สื่อถึงการยอมรับความจริงที่ว่าความสัมพันธ์ได้จบลงแล้ว และถึงเวลาที่ต้องก้าวต่อไปข้างหน้า

เพลงนี้ช่วยบรรเทาความอกหักได้อย่างไร:

  • การระบายความรู้สึก: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังได้ระบายความรู้สึกคิดถึงและอาลัยอาวรณ์ออกมา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจขึ้น
  • การยอมรับความจริง: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังยอมรับความจริงที่ว่าความสัมพันธ์ได้จบลงแล้ว และถึงเวลาที่ต้องก้าวต่อไป
  • ความอบอุ่นและกำลังใจ: ท่วงทำนองและเนื้อหาของเพลงที่อบอุ่นและมีความหมาย ทำให้ผู้ฟังรู้สึกได้รับกำลังใจและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว

7. แค่นั้น – พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์

เพลง “แค่นั้น” ของพงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ เป็นเพลงที่พูดถึงความไม่สมหวังในความรักและการยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ต้องก้าวต่อไป หลักๆแล้วเพลงนี้สื่อถึงการยอมรับว่าความรักไม่เป็นไปตามที่หวัง แม้จะพยายามแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงและปล่อยวาง

ส่วนเนื้อเพลงนั้นสะท้อนความเจ็บปวดจากการสูญเสียความรัก แต่ก็ยังคงมีความหวังและกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป แม้จะต้องเจ็บปวดเพียงใด เพลงนี้ยังสื่อถึงความเรียบง่ายของชีวิต ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่ “แค่นั้น”

เพลงนี้ช่วยบรรเทาความอกหักได้อย่างไร:

  • การยอมรับความรู้สึก: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังยอมรับความรู้สึกเจ็บปวดและความผิดหวังจากความรักที่ไม่สมหวัง
  • การปล่อยวาง: เนื้อหาของเพลงที่เน้นย้ำถึงการยอมรับความจริงและการก้าวต่อไป ช่วยให้ผู้ฟังสามารถปล่อยวางความทุกข์และเริ่มต้นใหม่ได้
  • กำลังใจและความหวัง: แม้เพลงจะพูดถึงความเจ็บปวด แต่ก็ยังคงสื่อถึงความหวังและกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อไป ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวและสามารถผ่านพ้นความทุกข์นี้ไปได้

8. วันใหม่ – รัดเกล้า

เพลง “วันใหม่” ของรัดเกล้า อามระดิษ สื่อถึงการเริ่มต้นใหม่หลังจากความผิดหวัง โดยเน้นที่การมองโลกในแง่ดีและการเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต เพลงนี้ไม่ได้ปฏิเสธความเจ็บปวดหรือความผิดหวัง แต่กลับยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ต้องผ่านไป

เนื้อเพลงเน้นย้ำถึงการเปิดใจรับวันใหม่และสิ่งดีๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต ไม่จมปลักอยู่กับอดีตที่ผ่านไปแล้ว เพลงนี้ให้กำลังใจผู้ฟังให้ลุกขึ้นสู้และเริ่มต้นใหม่ มองเห็นคุณค่าของตัวเองและเชื่อมั่นว่าจะมีความสุขได้อีกครั้ง

“วันใหม่” เป็นเพลงที่ให้กำลังใจและความหวังแก่ผู้ที่กำลังเผชิญกับความผิดหวัง โดยสื่อสารผ่านเนื้อหาที่เข้าใจง่ายและท่วงทำนองที่ไพเราะ ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอบอุ่นและมีกำลังใจที่จะเริ่มต้นใหม่

9. ปล่อย – ปาล์มมี่

เพลง “ปล่อย” ของปาล์มมี่ สื่อถึงการยอมรับความจริงและการปล่อยวางจากความสัมพันธ์ที่จบลง แม้จะยังมีความรู้สึกดีๆ หลงเหลืออยู่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว และถึงเวลาที่ต้องเดินหน้าต่อไป เพลงนี้สะท้อนถึงการยอมรับความจริงที่ว่าความสัมพันธ์ได้จบลงแล้ว และถึงเวลาที่ต้องปล่อยมือจากอดีต

เนื้อหาของเพลงเน้นย้ำถึงการปล่อยวางความรู้สึกที่ยังค้างคา ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความคิดถึง หรือความเจ็บปวด เพื่อที่จะสามารถก้าวต่อไปได้ เพลงนี้ยังสื่อถึงการเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ในชีวิต และการเริ่มต้นใหม่ด้วยความเข้มแข็ง

“ปล่อย” เป็นเพลงที่ให้กำลังใจและความเข้าใจแก่ผู้ที่กำลังเผชิญกับความอกหัก โดยสื่อสารผ่านเนื้อหาที่ตรงไปตรงมาและท่วงทำนองที่เศร้าสร้อยแต่สวยงาม ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเข้าถึงและสามารถนำไปปรับใช้กับสถานการณ์ของตัวเองได้

10. สบาย สบาย – เบิร์ด ธงไชย

เพลง “สบาย สบาย” ของเบิร์ด ธงไชย ไม่ได้สื่อถึงความอกหักโดยตรง แต่เป็นเพลงที่ให้กำลังใจและสร้างความสุขให้กับผู้ฟังด้วยเนื้อหาที่เรียบง่าย สนุกสนาน และมองโลกในแง่ดี

เพลงนี้เน้นย้ำถึงการมองโลกในแง่บวก มองข้ามปัญหาและความทุกข์ใจ แล้วโฟกัสไปที่สิ่งดีๆ รอบตัว เนื้อหาของเพลงเชิญชวนให้ปล่อยวางความเครียดและความกังวล แล้วใช้ชีวิตให้มีความสุขในแบบของตัวเอง นอกจากนั้นยังสื่อถึงการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สนุกสนาน และไม่ยึดติดกับสิ่งใดมากเกินไป

เพลงนี้ช่วยบรรเทาความอกหักได้อย่างไร (แม้จะไม่ได้เกี่ยวกับความอกหักโดยตรง):

  • การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย: ท่วงทำนองที่สนุกสนานและเนื้อหาที่ให้กำลังใจ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและลดความตึงเครียด ทำให้ผู้ฟังรู้สึกสบายใจขึ้น
  • การเบี่ยงเบนความสนใจ: เพลงนี้ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากความทุกข์ใจ ไปสู่สิ่งที่ทำให้รู้สึกดีและมีความสุข
  • การมองโลกในแง่บวก: เนื้อหาของเพลงที่เน้นย้ำถึงการมองโลกในแง่ดี ช่วยให้ผู้ฟังสามารถมองเห็นแง่มุมที่ดีของชีวิต และสร้างกำลังใจให้ก้าวต่อไป

11. เต็มใจให้ – ศุ บุญเลี้ยง

เพลง “เต็มใจให้” ของศุ บุญเลี้ยง เป็นเพลงที่สื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์ใจและไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้ว่าความรักนั้นจะไม่สมหวังก็ตาม เพลงนี้ไม่ได้เน้นที่ความเจ็บปวดจากการอกหัก แต่กลับโฟกัสไปที่ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้แก่คนที่รัก และการยอมรับความจริงของความสัมพันธ์

เพลงนี้สะท้อนถึงความรักที่ให้ไปโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ไม่ต้องการครอบครอง เพียงแค่ต้องการให้คนที่รักได้รับรู้ถึงความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ เนื้อเพลงสื่อถึงการยอมรับว่าความรักอาจไม่สมหวัง แต่อย่างน้อยก็ยังมีความสุขที่ได้คิดถึงและห่วงใยคนที่รักอยู่เสมอ เพลงนี้เน้นย้ำว่าความสุขที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การได้รับ แต่มาจากการให้ด้วยใจจริง

เพลงนี้ช่วยบรรเทาความอกหักได้อย่างไร:

  • การยอมรับความรู้สึก: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความคิดถึง หรือความเสียใจ โดยไม่ต้องฝืนหรือเก็บกด
  • การปล่อยวาง: เนื้อหาของเพลงที่เน้นย้ำถึงการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ช่วยให้ผู้ฟังสามารถปล่อยวางความคาดหวังและยอมรับความจริงของความสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น
  • การมองเห็นคุณค่าของความรัก: เพลงนี้ช่วยให้ผู้ฟังเห็นคุณค่าของความรักที่เคยมีให้ แม้ว่าความรักนั้นจะไม่สมหวังก็ตาม ทำให้รู้สึกว่าความรักที่ให้ไปไม่สูญเปล่า

12. เธอบอกให้ลืม – Endorphine (เวอร์ชั่น Orginal: บุปผา ธรรมบุตร)

เพลง “เธอบอกให้ลืม” ของ Endorphine สื่อถึงความเจ็บปวดและความยากลำบากในการพยายามลืมคนรักเก่าตามคำขอของอีกฝ่าย แม้ว่าความรักจะจบลงแล้ว แต่ความรู้สึกยังคงอยู่ และการพยายามลืมกลับทำให้ยิ่งคิดถึงและเจ็บปวดมากขึ้น

เพลงนี้สะท้อนถึงความเจ็บปวดของการถูกบอกให้ลืมจากคนที่เรายังรักและผูกพันอยู่ แม้ว่าจะเข้าใจเหตุผลของการเลิกรา แต่การถูกขอให้ลืมก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยากจะยอมรับ แม้ว่าความสัมพันธ์จะจบลง แต่ความทรงจำดีๆ ที่เคยมีร่วมกันยังคงฝังลึกอยู่ในใจ และยิ่งพยายามลืมก็ยิ่งทำให้ความทรงจำเหล่านั้นชัดเจนขึ้น นอกจากนั้นแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการตัดใจจากคนที่เรายังรัก แม้ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ยังไม่สามารถลืมได้

แม้ว่าเพลง “เธอบอกให้ลืม” จะไม่ได้ให้คำแนะนำในการลืมคนรักเก่าโดยตรง แต่การที่เพลงนี้สะท้อนความรู้สึกของผู้ที่กำลังอกหักได้อย่างตรงไปตรงมา ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียวและสามารถเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเยียวยาหัวใจ

13. อ้อล้อ – วงซูซู

เพลง “อ้อล้อ” ของวงซูซู เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวัง และการพยายามทำใจยอมรับความจริง แม้จะยังคงรักและคิดถึงอยู่ก็ตาม เพลงนี้สื่อถึงการยอมรับความจริงที่ว่าความรักไม่เป็นไปตามที่หวัง แม้จะเจ็บปวดแต่ก็ต้องยอมรับและปล่อยวาง

แม้จะยอมรับความจริงแล้ว แต่ความรู้สึกคิดถึงและความรักที่มีต่ออีกฝ่ายยังคงอยู่ เพลงนี้สะท้อนถึงความรู้สึกที่ยังคงผูกพันและห่วงใย เนื้อเพลงมีการให้กำลังใจตัวเองให้เข้มแข็งและก้าวต่อไป แม้จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดก็ตาม

ในขณะเดียวกัน เพลงนี้แสดงให้เห็นถึงความคิดถึงและความรักที่ยังคงมีต่ออีกฝ่าย ซึ่งอาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อต้องยอมรับว่าความรู้สึกเหล่านั้นไม่สามารถทำให้ความสัมพันธ์กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เพลงยังได้เน้นย้ำถึงความจริงที่ว่าความรักไม่เป็นไปตามที่หวัง และต้องยอมรับความจริง แม้จะเจ็บปวดก็ตาม การยอมรับความจริงนี้อาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจมากขึ้นในช่วงแรก

การเผชิญหน้าความเจ็บปวดเสียแต่วันนี้เป็นหนทางที่จะบรรเทาความเจ็บปวดจากอกหักได้ดีที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *