หากคิดว่าชีวิตตัวเองแย่สุดๆแล้ว…ลองอ่านเรื่องนี้

เชื่อว่าหลายๆคนคงเคยได้เจอปัญหา หรือมีเรื่องราวบั่นทอนกำลังกายกำลังใจ มาแล้วไม่มากก็น้อย  ไม่ว่าจะเป็นความเครียด ปัญหางาน การเงิน คนรอบข้าง ปัญหาชีวิตทั่วไป ปัญหาภายในใจ สิ่งที่ไม่ลงตัว ฯลฯ ในบางจังหวะของชีวิตสิ่งที่เราเผชิญอยู่ทุกวันมันทำให้เราเหนื่อย ท้อได้ง่ายๆเหมือนกัน บทความนี้ให้กำลังใจ สำหรับคนที่กำลังท้อหรือหมดกำลังใจ ครับ

ย้อนกลับไปประมาณหลายสิบปีที่แล้ว เฮเลน เคลเลอร์ นักเขียนและนักมนุษยธรรมกล่าวว่าไว้ “ชีวิตเป็นได้ทั้งการเดินผจญภัยที่ห้าวหาญตื่นเต้น หรือการเป็นอยู่ที่จืดชืดไร้ความหมาย” เราจะรู้สึกอย่างไรกับชีวิตอยู่ที่ตัวเราเอง อ่านแล้วคงคิดว่าคนที่กล่าวคำนีเป็นคนที่ได้รู้เห็นความเป็นไปของโลกเป็นอย่างดี ร่ำรวย ได้ท่องเที่ยวไปในที่สุดๆ ได้ใช้ชีวิตอย่างสุดๆได้มีชีวิตที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสมบูรณ์แบบ

แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลย….คนที่กล่าวคำนี้ทั้งหูหนวกและตาบอดตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยความไม่ท้อแท้สามารถเรียนรู้จนจบปริญญา แต่กลายเป็นผู้หญิงคนแรกเปลี่ยนบทบาทผู้หญิงอเมริกา ลองมาดูประวัติคร่าวของเธอกันซักหน่อย

ชื่อจริงของเธอคือ เฮเลน อาดัมส์ เคลเลอร์ (Helen Adams keller) เกิดเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2423 และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1968 เป็นชาวอเมริกัน เป็นนักประพันธ์ นักรณรงค์ทางการเมือง และผู้บรรยาย เธอเป็นผู้ที่พิการทั้งทางสายตาและหูหนวก คนแรกที่ได้รับปริญญาตรีทางศิลปะศาสตร์

Helen Keller

ครูของเธอคือ แอน ซุลลิแวน (Anne Sullivan) ได้ทำให้เธอสามารถหลุดจากความโดดเดี่ยว เพราะขาดภาษาที่จะสื่อสารกับคนที่ทั้งหูหนวกและตาบอด แอน ซุลลิแวนมีส่วนทำให้เด็กหญิงคนหนึ่งที่โมโหร้าย ได้เรียนรู้ที่จะสื่อสาร และได้กลายเป็นผู้นำสตรี ดังที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง ผู้ทำงานมหัศจรรย์ (The Miracle Worker)

เฮเลนเป็นนักเขียนที่เยี่ยมยอด เธอใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยว และเป็นนักพูดและรณรงค์ต่อต้านสงคราม เป็นสมาชิกพรรคสังคมนิยมแห่งอเมริกา และเป็นพวกสหภาพแรงงานนานาชาติ นอกจากนั้นแล้วเธอเป็นผู้รณรงค์เพื่อสิทธิในการออกเสียงของสตรี สิทธิคนงาน และการต่อสู้เพื่อสังคมนิยม (socialism) ในสหรัฐอเมริกา และในปี พ.ศ. 2463 เฮเลนได้ช่วยก่อตั้งสหภาพอเมริกันเพื่อสิทธิเสรีภาพ (American Civil Liberties Union – ACLU)

เฮเลน เคลเลอร์เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนและคนทำงานที่ต้องต่อสู้ทั้งหลาย เธอคือสัญลักษณ์ของนักสู้ที่ทำงานหนัก ที่ใช้ปัญญาเอาชนะข้อจำกัด เพราะเธอมีความพยายามที่ยิ่งประสบปัญหามาท้าทาย เธอยิ่งพยายาม เธอได้ใช้ชีวิตเพื่อจุดประกายให้แก่เด็กผู้ยากไร้ ในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2511

ภาพยนต์เรื่อง The Miracle Worker ที่เขียนบทโดย Helen Keller

หากเทียบกับคนหูหนวกตาบอดแล้วเรามีพร้อมทุกอย่าง สามารถทำอะไรได้อีกมากมายหลายเท่านัก มีคนบอกว่าแต่ละเช้าเราควรขอบคุณธรรมชาติ ขอบคุณโลก ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ให้เรามีชีวิตแบบนี้อีกวันหนึ่ง ทำแบบนี้นอกจากจะทำให้เราสุขใจแล้ว ยังทำเจอะเจอแต่สิ่งที่ดีด้วย

ฝรั่งเขาเรียกมันว่าการขอบคุณสิ่งที่เรามี หากเราไม่มีการขอบคุณสิ่งที่เรามี ต่อสิ่งที่เรามีแล้วเราก็จะมีแต่ความทุกข์ การขอบคุณสิ่งที่เรามี ยังช่วยให้เราใช้สิ่งที่เรามีคุ้มค่าที่สุด การใช้ทรัพย์การคุ้มค่ามันก็หมายถึงเราจะสามารถได้รับสิ่งอื่นๆที่เราต้องการมากขึ้นด้วย

ว่ากันว่าหากต้องการกำลังใจให้ดูคนที่แย่กว่าเรา ข้อมูลจาก World Hunger Organization ในวันหนึ่งๆในโลกนี้มีคนอย่างน้อย 300 ล้านคนในกำลังอดตาย อย่างน้อย 1 พันล้านคน ไม่มีอะไรจะกินแม้กระทั่งน้ำที่สะอาด ขณะที่ท่านกำลังอ่านโพสต์นี้มากกว่า 2 พันล้านคนไม่มีแม้แต่ที่นอนที่ดี

ขออ้างอิงถึงคำของ แอนโธนี่ รอบบินส์ นักพัฒนาบุคลิก เขากล่าวว่าหากให้แลกชีวิตความเป็นอยู่ของเรามีคนมากกว่า 4 พันล้านคนบนโบกนี้พร้อมที่และแลกกับคุณเลยทันทีดังนั้นชีวิตที่ว่าแย่ๆของเราตอนนี้นับว่ายังดีกว่าคนอีกเป็นพันๆล้านคนเลยทีเดียว

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *